Soft Power ไทยกับการผลักดันอาหารและวัฒนธรรมสู่เวทีโลก
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แนวคิด “Soft Power” หรือ “พลังละมุน” ได้กลายมาเป็นกลยุทธ์สำคัญของหลายประเทศในการสร้างอิทธิพลผ่านวัฒนธรรม อาหาร ดนตรี ภาพยนตร์ และแฟชั่น ประเทศไทยเองก็ได้นำ Soft Power มาใช้ในการส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่อง อาหารไทย และ วัฒนธรรมพื้นบ้าน ที่ได้รับความนิยมทั่วโลก
จุดแข็งของ Soft Power ไทย
อาหารไทย
-
ไทยมีเมนูติดอันดับอาหารที่อร่อยที่สุดในโลก เช่น ต้มยำกุ้ง ผัดไทย แกงเขียวหวาน และข้าวเหนียวมะม่วง
-
สตรีทฟู้ดไทยเป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ซึ่ง CNN เคยจัดให้เป็นเมืองที่มีสตรีทฟู้ดดีที่สุดในโลก
-
ร้านอาหารไทยในต่างประเทศมีจำนวนมากกว่า 15,000 แห่งทั่วโลก
ศิลปินและวงการบันเทิง
-
ลิซ่า BLACKPINK คือหนึ่งในบุคคลที่สร้างอิทธิพลเชิงวัฒนธรรมอย่างสูง เธอมีแฟนคลับทั่วโลก และสื่อสารวัฒนธรรมไทยผ่านเครื่องแต่งกาย การใช้ภาษาท้องถิ่น และความภาคภูมิใจในรากเหง้า
-
ภาพยนตร์ไทยบางเรื่อง เช่น “นางนาก”, “Homestay” และ “Love Destiny (บุพเพสันนิวาส)” มีฐานแฟนคลับต่างชาติและส่งเสริมความน่าสนใจของประวัติศาสตร์ไทย
แฟชั่นและงานหัตถกรรม
การสนับสนุนจากภาครัฐ
-
การจัดตั้งคณะกรรมการส่งเสริม Soft Power แห่งชาติ ในปี 2566 เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ เช่น ดนตรี แฟชั่น ศิลปะ และอาหาร
-
การวางนโยบายให้ Soft Power เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี
-
การผลักดันให้จัดตั้ง “กองทุน Soft Power” เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการและนักสร้างสรรค์ไทย
แนวโน้มในอนาคต
-
ไทยสามารถใช้ Soft Power ดึงดูดนักท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมเพิ่มขึ้น
-
อุตสาหกรรมอาหารพร้อมรับการขยายตัวในตลาดโลกโดยใช้วัฒนธรรมควบคู่กับธุรกิจ
-
Soft Power ไทยอาจกลายเป็น “สินทรัพย์ทางยุทธศาสตร์” หากได้รับการจัดการอย่างยั่งยืน
ที่มา : สถาบันวิจัยเพื่อพัฒนาสังคม มหาวิทยาลัยขอนแก่น
: สำนักงานสภาเเละพัฒนาเศรษฐกิจเเละสังคมเเห่งชาติ