image alt image alt

บทความ

วิธีเลือกอาหารกระป๋องที่ดีต่อสุขภาพและคุ้มค่า

วิธีเลือกอาหารกระป๋องที่ดีต่อสุขภาพและคุ้มค่า

อาหารกระป๋องเป็นทางเลือกที่สะดวกและเก็บรักษาได้นาน แต่การเลือกซื้อให้ได้คุณค่าทางโภชนาการสูงสุดต้องพิจารณาหลายปัจจัย ดังนี้:

  1. ตรวจสอบฉลากโภชนาการ

    • ปริมาณโซเดียม: เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีโซเดียมต่ำ หรือมีคำว่า "ลดโซเดียม" หรือ "Low Sodium" เพื่อลดความเสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูง

    • ปริมาณน้ำตาล: สำหรับอาหารหวานกระป๋อง เช่น ผลไม้ในน้ำเชื่อม ควรเลือกแบบ "น้ำผลไม้ธรรมชาติ" แทนแบบน้ำเชื่อม

    • ไขมันและแคลอรี: อ่านข้อมูลไขมันอิ่มตัวและแคลอรีเพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการในแต่ละวัน

  2. สังเกตส่วนผสม

    • ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ใช้ส่วนผสมธรรมชาติ หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีวัตถุเจือปนอาหาร (Food Additives) เช่น สีสังเคราะห์ สารกันบูด หรือผงชูรส

    • สัดส่วนของวัตถุดิบหลัก เช่น เนื้อสัตว์หรือผัก ควรอยู่ในลำดับแรกของส่วนผสม

  3. ตรวจสอบบรรจุภัณฑ์

    • เลือกกระป๋องที่ไม่มีรอยบุบ สนิม หรือโป่งบวม เพราะอาจเกิดการปนเปื้อนหรือเสื่อมคุณภาพ

    • มองหาผลิตภัณฑ์ที่ใช้บรรจุภัณฑ์ที่ปลอดสาร BPA (Bisphenol A) ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว

  4. พิจารณาอายุการเก็บรักษา

    • เลือกกระป๋องที่มีวันหมดอายุห่างออกไปนานพอสมควร

    • ควรเก็บรักษาอาหารกระป๋องในที่แห้งและเย็นหลังจากซื้อมา เพื่อยืดอายุการใช้งาน

  5. เลือกอาหารกระป๋องที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ

    • ผลไม้กระป๋อง: เลือกแบบ "ในน้ำผลไม้ธรรมชาติ" หรือ "น้ำเปล่า" แทนแบบ "ในน้ำเชื่อม"

    • ปลาและอาหารทะเล: เลือกปลากระป๋องในน้ำเกลือหรือน้ำแร่ แทนแบบในน้ำมัน เพื่อลดปริมาณไขมัน

    • ผักกระป๋อง: เลือกผักที่ระบุว่า "ไม่มีเกลือเพิ่ม" (No Added Salt)

  6. สนับสนุนสินค้าคุณภาพจากแบรนด์ที่เชื่อถือได้

    • เลือกแบรนด์ที่ได้รับการรับรองคุณภาพจากหน่วยงานมาตรฐานอาหาร เช่น อย. (สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา)

    • หากเป็นสินค้าออร์แกนิก ควรมองหาเครื่องหมายรับรองมาตรฐานออร์แกนิก

  7. พิจารณาความคุ้มค่า

    • เปรียบเทียบปริมาณและราคา เพื่อเลือกซื้อสินค้าที่คุ้มค่าที่สุด

    • หากซื้อปริมาณมาก ควรตรวจสอบว่าคุณสามารถใช้หรือบริโภคทันก่อนถึงวันหมดอายุ

  8. ข้อควรระวังเพิ่มเติม

    • หากเปิดกระป๋องแล้ว ควรเก็บในภาชนะสะอาดและแช่เย็น หากไม่ได้บริโภคทันที

    • หลีกเลี่ยงอาหารกระป๋องที่มีกลิ่นผิดปกติหรือสีผิดเพี้ยนแม้ยังไม่หมดอายุ

การเลือกซื้ออาหารกระป๋องให้ได้ประโยชน์สูงสุด ไม่เพียงช่วยรักษาสุขภาพของคุณและครอบครัว แต่ยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและลดปัญหาสุขภาพในระยะยาวได้อีกด้วย

ที่มา: สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ